Need to Know 1
German Public Railway Transportation
ระบบขนส่งทางรถไฟเยอรมัน
ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ
วิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนเรศวร
ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ผมได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษเพื่อสอนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเบรเมน ประเทศเยอรมัน (University of Bremen) โดยผมต้องใช้เวลาอยู่ที่ประเทศเยอรมันเป็นเวลา 10 วัน ทำให้ได้มีโอกาสเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ของประเทศเยอรมันโดยการใช้บริการรถไฟ ทั้งระหว่างเมืองและภายในเมือง เมืองที่ผมเดินทางได้แก่ แฟรงเฟิร์ต มิวนิค โคโลจญ์ และเบรเมน
การใช้บริการรถไฟของประเทศเยอรมัน ผมเริ่มตั้งแต่เครื่องบินจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงเฟิร์ต (Frankfurt International Airport หรือ Flughafen Frankfurt am Main) โดยการเดินทางไปยังสถานีรถไฟกลางแฟรงเฟิร์ต (Frankfurt Hbf) ซึ่งเส้นทางรถไฟเชื่อมเข้าไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงเฟิร์ตเลย ดังนั้น สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงเฟิร์ตได้อย่างสะดวก เนื่องจากเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟจากท่าอากาศยานนานาชาติสู่สถานีรถไฟศูนย์กลางของแฟรงเฟิร์ต ซึ่งสามารถเดินทางต่อไปยังสถานที่ต่างๆ โดยรถไฟภายในเมืองที่มีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ (ตามภาพแผนที่เส้นทางรถไฟภายในตัวเมืองแฟรงเฟิร์ต)
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟภายในตัวเมืองแฟรงเฟิร์ต
นอกจากนั้นยังได้ใช้บริการรถไฟระหว่างเมือง เส้นทางแฟรงเฟิร์ต-มิวนิค เส้นทางเบรเมน-โคโลจญ์ และเส้นทางเบรเมน-แฟรงเฟิร์ต (เส้นทางรถไฟแสดงดังรูป) สามารถบอกได้เลยว่าการเดินทางอยู่ในระดับที่พึงพอใจกับการบริการเลย
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟระหว่างเมือง ประเทศเยอรมัน
การเดินทางระหว่างเมือง มีจำนวนเที่ยวการเดินรถที่ให้เลือกค่อนข้างมาก และบางเส้นทางเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆ รอบข้างด้วย ด้วยเหตุนี้การเดินทางของผมจึงมีทางเลือกเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นคือผมได้จองเที่ยวบินของสายการบินลุฟท์แฮนซ่า ระหว่างแฟรงเฟิร์ต-เบรเมน ไว้ ในเที่ยวไปสามารถเดินทางได้ แต่ในเที่ยวกลับเกิดปัญหาการประท้วงหยุดงานของพนักงานสายการบิน ทำให้เที่ยวบินเกือบทั้งหมดของสายการบินนี้ถูกยกเลิกในวันที่จะเดินทางจากเบรเมนไปยังแฟรงเฟิร์ตเพื่อต่อเที่ยวบินของสายการบินไทยกลับประเทศไทย แต่ด้วยจำนวนเที่ยวการเดินรถที่มีมาก ทำให้ผมสามารถเปลี่ยนวิธีการเดินทางเป็นรถไฟแทนการเดินทางโดยเครื่องบิน และสามารถเชื่อมต่อกับการเดินทางกลับประเทศไทยได้อย่างไม่เกิดปัญหา (จะมีก็เพียงปรับเวลาออกจากเบรเมนให้เร็วขึ้นจากกำหนดการเดิมประมาณ 4 ชั่วโมง)
การเดินทางภายในเมืองมิวนิค ก็จะไม่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ โดยคนในเมืองดังกล่าวจะเดินทางโดยใช้ระบบรถไฟสาธารณะ ซึ่งเชื่อมไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงย่านการค้าสำคัญของตัวเมือง อีกทั้งเขตชานเมืองเพื่อส่งคนที่พักอาศัยนอกเมืองเข้ามาในเขตเมืองและส่งกลับหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ และยังเชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นๆด้วย (ทางอากาศ ทางถนน ทางเท้า) ที่ลืมไม่ได้เลยคือการเชื่อมต่อไปยังสนามฟุตบอลสโมสรบาเยิร์นมิวนิคซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของยุโรป เพื่อเป็นการรองรับผู้เข้าชมการแข่งขันที่มีจำนวนมาก (เส้นทางการเดินรถดังแสดงในภาพ)
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟภายในตัวเมืองมิวนิค
เมืองโคโลญจ์เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้ใช้บริการระบบรถไฟสาธารณะ ซึ่งได้รับการจัดระบบรถไฟสาธารณะที่เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตลาด หรือแม้แต่สนามฟุตบอลบุนเดสลีกา (ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวเยอรมัน) อีกทั้งรับส่งคนเข้าออกชานเมืองและเขตเมือง (ดังแสดงในภาพเส้นทางรถไฟภายในเมืองโคโลญต์)
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟภายในตัวเมืองโคโลญจ์
เมืองเบรเมนเป็นเมืองที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าเมืองอื่น เนื่องจากเป็นเมืองที่มหาวิทยาลัยเบรเมนซึ่งผมไปสอนหนังสือครั้งนี้ตั้งอยู่ที่นี่ แต่ระบบขนส่งสาธารณะที่นี่เป็นระบบรถรางที่ใช้ถนนและรางในพื้นที่ร่วมกัน และเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกันได้อย่างลงตัว คนในพื้นที่นิยมใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าใช้รถส่วนตัว เส้นทางของระบบรถรางและรถบัส เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญๆ แหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้า ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเบรเมน สนามฟุตบอลเวรเดอร์เบรเมน (ทีมในบุนเดสลีกกา) ท่าอากาศยานเบรเมน เป็นต้น (เส้นทางการให้บริการของระบบรถรางและรถบัสแสดงดังภาพ) ด้วยเหตุที่เมืองเบรเมนเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ (ทั้งพื้นที่และจำนวนประชากร มีขนาดใกล้เคียงกับเขตเมืองพิษณุโลก) ทำให้การนำระบบรถรางสาธารณะมาใช้ร่วมกับรถบัสสาธารณะจึงมีความเหมาะสมและลงตัวกับขนาดของพื้นที่ ที่สำคัญการเดินทางของคนในพื้นที่นิยมใช้ระบบขนส่งสาธารณะและการเดินเท้า
ผมได้พูดคุยกับอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเบรเมนทำให้ทราบว่าเมื่อทางมหาวิทยาลัยเบรเมนรับนิสิต/นักศึกษาเพื่อมาเรียนหรือแลกเปลี่ยน ทางมหาวิทยาลัยเบรเมนจะมอบบัตรโดยสารระบบขนส่งสาธารณะประเภทรายเดือนให้กับนิสิต/นักศึกษา เพื่อใช้ในการเดินทางระหว่างการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเบรเมน จะเห็นได้ว่าเป็นหนึ่งในการส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ดังนั้นสภาพการจราจรของเมืองเบรเมนจึงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหาการจราจรติดขัด อีกทั้งรถรางและรถยนต์ก็สามารถใช้พื้นที่ของถนนร่วมกันได้ ความถี่ของรถรางในการให้บริการ (ณ สถานีมหาวิทยาลัยเบรเมน) ประมาณ 5 นาทีต่อขบวณ จึงเป็นการตอบสนองความต้องการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างดี
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟภายในตัวเมืองเบรเมน
จากระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถไฟและรถรางในประเทศเยอรมัน จะพบว่าได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและสร้างความเชื่อถือในการบริการให้กับผู้ใช้บริการ อีกทั้งมีการดำเนินงานในเชิงธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากรายได้จากการเดินรถ โดยวิเคราะห์ออกมาได้ ดังนี้
1. โครงข่ายเส้นทางการเดินรถ มีการเชื่อมต่อกับสถานที่ต่างๆ และระบบการขนส่งอื่น ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจและมีทางเลือกในการเดินทาง
2. ระบบตั๋วโดยสาร เป็นระบบที่อาศัยความเชื่อใจของผู้โดยสาร เนื่องจากไม่มีการตรวจตั๋วโดยสารเพื่อเข้าสู่ตัวรถ (หรือไม่มีพื้นที่แยกระหว่างการเข้าสู่พื้นที่เตรียมขึ้นรถกับพื้นที่สาธารณะในตัวอาคาร) นอกจากนั้นยังไม่มีการตรวจตั๋วโดยสารก่อนขึ้นตัวรถ (จะมีเพียงการสุ่มตรวจเป็นครั้งคราว) ระบบรถรางในเมืองเบรเมนมีตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารในรถ ดังนั้นผู้โดยสารที่ยังไม่มีตั๋วโดยสารจะต้องซื้อตั๋วโดยสารเมื่อขึ้นรถโดยสารแล้ว แต่ไม่มีใครมากำกับว่าได้ดำเนินการหรือยัง
สำหรับตั๋วโดยสารนั้น ตั๋วโดยสารระหว่างเมืองสามารถซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยซึ่งมีหลายแพคเก็ตให้เลือก ในส่วนของตั๋วโดยสารภายในเมืองนั้นมีให้เลือกหลายประเภท อาทิเช่น ตั๋ว 2-3 สถานี (2-3 stations ticket) ตั๋วเที่ยวเดียว (Single Trip Ticket) ตั๋ววัน (Day Ticket) เป็นต้น
3. พื้นที่เชิงพาณิชยกรรมในตัวสถานีและบริเวณโดยรอบ (หรือที่เรียกกันในทางวิชาการว่า TOD-Transit Oriented Development) มีร้านจำหน่ายสินค้าทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก สินค้าอุปโภค/บริโภค ศูนย์จำหน่ายตั๋วโดยสารสายการบิน เป็นต้น
4. ศูนย์ข้อมูลการเดินทาง ผู้เดินทางสามารถสอบถามข้อมูลในการเดินทาง ณ จุดประชาสัมพันธ์ ได้แก่ เลขที่ขบวณเที่ยวการเดินรถ เวลา ชานชลา การต่อขบวณเดินรถอื่น (ข้อมูลดังกล่าวสามารถสืบค้นได้จากเว็บไซต์อีกช่องทางหนึ่ง)
5. สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในสถานีได้รับการออกแบบสำหรับการเดินทางที่มีสัมภาระด้วย โดยการสร้างพื้นชานชลาให้มีระดับเท่ากับพื้นของตัวรถ และในเข้าสู่ชานชลาจะมีบันไดเลื่อนไฟฟ้าและลิฟท์โดยสารด้วย
6. การใช้ระบบขนส่งทางรถไฟกับการสินค้า มีการใช้สาธารณูปโภคที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือมีการขนส่งสินค้าด้วยระบบขนส่งทางรถไฟ เป็นการจัดตารางการเดินรถที่ผสมผสานผู้โดยสารและสินค้าได้อย่างเป็นระบบ
ประเทศไทยกำลังพัฒนาระบบขนส่งทางราง ดังนั้นกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์ของประเทศเยอรมันหรือประเทศต่างๆน่าจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่(มูลค่าการลงทุนสูงด้วย) สามารถดำเนินการได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
Twitter Proxies…
I found a great……