ท่าเรือแหลมฉบังใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมการศึกษาและสนับสนุนเยาวชน

Interview

Laem Chabang Port care for the environment as well as education and youth support.

ท่าเรือแหลมฉบังใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมการศึกษาและสนับสนุนเยาวชน

นอกจากจะได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและแผนการดำเนินงานในอนาคตของท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร ได้พูดถึงแนวทางและวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ท่าเรือแหลมฉบังจัดขึ้นเพื่อเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนอีกด้วย

ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร กล่าวว่า “ทิศทางการดำเนินงานต้องนำหลายๆ ส่วนมาประกอบกันเพื่อกำหนดนโยบาย เบื้องต้นต้องเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยซึ่งได้กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว และเราต้องดูเรื่องแนวนโยบายของ คสช. แนวนโยบายของกระทรวงคมนาคม ดูทิศทางเศรษฐกิจ และทิศทางโลจิสติกส์ของประเทศด้วย อีกส่วนคือผู้ประกอบการซึ่งก็คือลูกค้าหลักของท่าเรือแหลมฉบังเอง ที่เป็นสายเดินเรือซึ่งมีอยู่จำนวนหลายสายมาก จำนวนผู้ประกอบการท่าเทียบเรือซึ่งขณะนี้ก็มีอยู่ถึง 16 ท่า นอกจากนี้ยังมีส่วนภาคประชาชนที่ท่าเรือฯ จะต้องใส่ใจดูแลในฐานะผู้ที่อยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกัน และสุดท้ายก็คือพนักงานที่จะต้องได้รับการดูแลสวัสดิการที่ดีในทุกด้าน

โดยที่กล่าวมานับเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารงาน บนแนวคิดนำใจเขามาใส่ใจเราหรือการใส่ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งต้องขนานควบคู่ไปกับการตอบรับความต้องการในแต่ละภาคส่วนอย่างลงตัวด้วย”

ในด้านนโยบาย CSR ดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนนั้น ท่าเรือแหลมฉบับได้ร่วมกับเทศบาลนครแหลมฉบัง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ได้จัดโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนและชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง บนพื้นที่ 28 ไร่ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนและทรัพยากรชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง และเพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ แหล่งสันทนาการ ศึกษาดูงาน ด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

ท่าเรือแหลมฉบังได้จัดวันอนุรักษ์ป่าชายเลนแหลมฉบังในวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี เช่น การปลูกเสริมพันธุ์ไม้ป่าชายเลน การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ การเก็บขยะและการทำความสะอาดป่าชายเลน เป็นต้น

อีกโครงการคือ “ประภาคารปลา การท่าเรือแห่งประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติ” เป็นโครงการสร้างปะการังเทียม ณ พื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของชายเขาแหลมฉบังด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในอาณาบริเวณทางน้ำของท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องทะเลและชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้มีความสมบูรณ์อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งผลจากการวางปะการังเทียมทำให้มีสัตว์น้ำมาอยู่อาศัยบริเวณพื้นที่วางปะการังเพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีโครงการประกวดเรียงความสำหรับเยาวชนในหัวข้อ “ท่าเรือของฉัน” ที่ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร จัดขึ้นเพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเยาวชนที่มีต่อท่าเรือฯ ให้สาธารณชนได้รับรู้ และอีกโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ โครงการ “นกในท่า” การประกวดภาพถ่ายนกในพื้นท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะเป็นการบอกได้ถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ในท่าเรือฯ ได้อย่างชัดเจน และเป็นการย้ำถึงความเป็น “Green Port” ได้เป็นอย่างดีด้วย

ส่วนในเรื่องการส่งเสริมการศึกษาและสนับสนุนเยาวชนนั้น ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร กล่าวว่า “เยาวชนคือทรัพยากรที่มีค่า เป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศ ต้องดูแลและใส่ใจให้ดี สร้างมูลค่าด้วยการให้การศึกษาที่ดี และเติมเต็มความสมบูรณ์ด้วยการให้ทักษะ ซึ่งเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากการเรียนในระบบตามมาตรฐานและใบรับรองคุณวุฒิต่างๆ

ทักษะเป็นสิ่งที่จะติดตัว สามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต ยกตัวอย่างเรื่อง AEC ที่กำลังจะมาถึง ความสามารถทางด้านภาษาเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น จะเป็นภาษาจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย หรืออื่นๆ ก็ได้ ยิ่งหลายภาษายิ่งดี ควรต้องเรียนรู้เพิ่มเติมไว้อยู่เสมอ”

ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร มองว่า สิ่งที่จะช่วยให้เยาวชนมีคุณภาพและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ ครู ผู้ปกครอง มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยชี้แนะแนวทาง และดึงความสามารถหรือพรสวรรค์ของเด็กออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ท่าเรือแหลมฉบังเองได้จัดโครงการสนับสนุนด้านการศึกษาเพื่อส่งเสริมเยาวชนให้มีความรู้และทักษะ ส่งเสริมให้เยาวชนค้นหาตัวเองและเดินไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างโครงการพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับเยาวชนในพื้นที่โดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษให้กับเยาวชนในพื้นที่โดยรอบท่าเรือฯ เพื่อให้มีประสบการณ์ตรงในการฝึกภาษาอังกฤษและร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมกับครูภาษาอังกฤษเจ้าของภาษาโดยจะพัฒนาภาษาอังกฤษให้เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับสูง โดยให้เยาวชนเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษและใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ตามระดับชั้นและที่สำคัญคือการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้วคือ โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต โรงเรียนวัดแหลมฉบัง โรงเรียนวัดใหม่เนินพะยอม และโรงเรียนอนุบาลบางละมุงท่าเรือแหลมบัง

สำหรับในปีงบประมาณ 2559 ท่าเรือแหลมฉบังได้สนับสนุนงบประมาณโครงการพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับเยาวชนในพื้นที่โดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง จำนวนทั้งสิ้น 7 โรง เป็นเงินทั้งสิ้น 6,930,000 บาท ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลบางละมุง โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต โรงเรียนวัดแหลมฉบัง โรงเรียนวัดใหม่เนินพยอม โรงเรียนบ้านบางละมุง โรงเรียนบ้านนาวัง โรงเรียนบ้านโรงหีบ

“ปันความรัก เพิ่มความรู้ สู่ชุมชน” เป็นโครงการที่ท่าเรือแหลมฉบังต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันด้านการศึกษาในพื้นที่รอบเขตท่าเรือแหลมฉบัง และในจังหวัดชลบุรีให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน จึงดำเนินการปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียน และมอบเงินจัดซื้อหนังสือเพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาหาความรู้ที่เรียนจากชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน รวมเป็นเงิน 1.03 ล้านบาท โดยมอบเป็นเงินจัดซื้อหนังสือให้กับโรงเรียน 23 โรงเรียน รอบพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และในจังหวัดชลบุรี คือโรงเรียนในอำเภอศรีราชา โรงเรียนอำเภอบางละมุง และมอบเงินปรับปรุงห้องสมุด จำนวน 3 โรงเรียน รอบพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และในจังหวัดชลบุรี ได้แก่ โรงเรียนในอำเภอศรีราชา และโรงเรียนในอำเภอบางละมุง

สุดท้าย ร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร ฝากถึงน้องๆ เยาวชนที่อยากจะทำในสิ่งที่รักให้ประสบความสำเร็จว่า “สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ คือ ความตั้งใจ ถ้าใจได้ก็ไปได้เกินครึ่งทางแล้ว ที่ต้องควบคู่ไปด้วยก็คือการขยันใฝ่เรียนรู้อยู่เสมอ และกำหนดเป้าหมายและแนวทางให้ชัดเจน ก็จะสำเร็จได้ตามที่ตั้งไว้”

You can leave a response, or trackback from your own site.

Leave a Reply