JWD อินโฟโลจิสติกส์ รุกอาเซียนรับไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภูมิภาค

เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ รุกอาเซียนรับไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

เร่งลงทุนสร้างคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าแช่เย็นแช่แข็งในประเทศเพื่อนบ้าน

‘เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์’ รุกขยายธุรกิจในไทยและอาเซียน ขานรับนโยบายรัฐผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาค ประเดิมนำร่องลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งในกัมพูชา เมียนมาร์และลาว พื้นที่รวมกว่า 6,000 ตารางเมตร ขณะที่การให้บริการในไทยมีแผนจะเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการ โดยเพิ่มความหลากหลายของการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี     อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทย ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ประกอบกับมีระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับทั้งถนน ระบบราง ทางเรือและทางอากาศ ตลอดจนมีแผนลงทุนโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสขยายธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน รองรับการเติบโตดังกล่าวและผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวไปสู่ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในอาเซียน จึงได้ขยายการลงทุนในภูมิภาคนี้ โดยเริ่มจากประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าทั่วไปและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นแช่แข็งในประเทศกัมพูชา เมียนมาร์และลาว รวมพื้นที่ทั้งหมด 6,490 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปี 2559 เพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารในกลุ่มประเทศดังกล่าวที่กำลังขยายตัวได้ดี

“กัมพูชา เมียนมาร์และลาวถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตและมีความต้องการด้านบริการโลจิสติกส์และระบบคลังสินค้า เราจึงขยายการลงทุนเข้าไปในกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยนำองค์ความรู้ด้านบริหารการจัดการด้วยระบบซอฟแวร์และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ามาช่วยบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า โดยเราคาดว่าแผนดำเนินงานในตลาดต่างประเทศครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินในระดับอาเซียน” นายชวนินทร์ กล่าว

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ กล่าวว่า ขณะที่แผนการลงทุนในไทยนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่คลังสินค้าภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเพิ่มการให้บริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น ประกอบด้วย ศูนย์เก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ มีพื้นที่ 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการรวมสินค้าของผู้ส่งออกรายย่อยก่อนขนย้ายขึ้นเรือ จะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 1/59และศูนย์กระจายสินค้าอันตรายในประเทศ มีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเก็บและกระจายสินค้าอันตรายให้กับรถขนส่งขนาดเล็กเพื่อจัดส่งไปยังจุดหมาย คาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 2/59

นอกจากนี้ ยังลงทุนโครงการซื้อเครนขาสูง (Rubber Tyred Gantry – RTG) เพื่อรองรับการจัดเรียงตู้คอนเทนเนอร์ที่คลังและลานสินค้าอันตรายให้ได้ 4-5 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินแก่ลูกค้าได้มากขึ้นและผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

You can leave a response, or trackback from your own site.

Leave a Reply