Customs Update
Roles of Customs Department in cross border management
บทบาทของกรมศุลกากรในการบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน (CBM)
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการบริการต่อเนื่องของภูมิภาคอินโดจีน ประกอบกับการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (Asean Economics Community) อย่างเป็นทางการ วันที่ 1 มกราคม 2559 ที่จะถึงนี้ ภาครัฐและภาคเอกชนจึงพยายามเร่งผลักดันยุทธศาสตร์และแผนการค้าชายแดนให้เป็นรูปธรรมในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งการค้าชายแดนของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ (มาเลเซีย เมียนมาร์ สปป.ลาว และกัมพูชา) ในปี 2556 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้ารวม 924,241.79 ล้านบาท ในปี 2557 (มกราคม – มีนาคม) มีมูลค่าการค้ารวม 241,821.31 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นสุดไตรมาส ในปี 2557 มูลค่าการค้าชายแดนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับ 950,000 ล้านบาท และในแต่ละปี ประเทศไทยมีมูลค่าการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นทุกปี
ดังนั้น ทางกรมศุลกากรจึงได้มีการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าตามด่านศุลกากรรวมทั้งการควบคุมทางศุลกากรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และเนื่องด้วยนโยบายของ WCO (World Customs Organization) ในปี 2558 นั้น เน้นไปที่การบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน (CBM : Coordinated Border Management) การพัฒนาด่านทางการค้าที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 5 ด่านนั้นจึงถือว่าเป็นกลไกสำคัญของประเทศไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC อีกทางหนึ่ง ในส่วนของ 5 พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลได้ประกาศไว้แล้ว ประกอบด้วย
- 1. ด่านศุลกากรแม่สอด
ตั้งอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งติดกับประเทศเมียนมาร์ ได้นำการบริหารจัดการชายแดน (CBM) มาใช้ในบริหารจัดการในระดับความร่วมมือภายในองค์กร ระหว่างหน่วยงานในสังกัดพื้นที่ อ.แม่สอด และหน่วยงานในส่วนของ จ.ตาก การสร้างเครือข่ายระหว่างองค์กร และความร่วมมือระหว่างประเทศ การร่วมมือกันในพื้นที่ อ.แม่สอด เช่น การร่วมกันกับหน่วยงานใน อ.แม่สอด ตรวจสอบสินค้านำเข้าซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้ การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้การนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้ มีมูลค่าการนำเข้าในปีงบประมาณ 2557 จำนวน 229,342,259.60 บาท ภาษีอากร 33,015,816.05 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 18,365,065.25 บาท นอกจากนี้การบริหารจัดการชายแดนของด่านศุลกากรแม่สอด ยังเป็นไปเพื่อการบูรณาการร่วมกันของแต่ละหน่วยงานในการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้า เช่น การตรวจสินค้า ณ จุดเดียว (One Stop Service) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางด้านต่างๆ เช่น การกระทำความผิดทางกฎหมาย การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การนำเข้าพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งมีการเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานของประเทศเพื่อนบ้านตามโอกาสและวาระต่างๆ เป็นต้น
- 2. ด่านศุลกากรอรัญประเทศ
ตั้งอยู่ที่ อ.อรัญประเทศ และ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ติดกับประเทศกัมพูชา ทางด่านฯได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ตามที่ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา เห็นชอบร่วมกันในการเปิดเดินรถข้ามพรมแดน ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนสิทธิจราจรระหว่างไทย-กัมพูชา ณ จุดผ่านแดนอรัญประเทศ-ปอยเปตโดยระยะแรกจะเน้นรถยนต์โดยสารและรถบรรทุกสินค้า จำนวน 40 คันต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการตรวจพื้นที่ชายแดนร่วมกัน อาทิ เช่น เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557 นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ (นายมาโนช รอดสม) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต จ.สระแก้วได้เข้าตรวจพื้นที่พร้อมกับการเจรจาการสำรวจและจัดการหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้กรอบความร่วมมือการจัดการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ณ จุดผ่อนปรนบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
- 3. ด่านศุลกากรคลองใหญ่
ตั้งอยู่ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ติดกับประเทศกัมพูชา จ.ตราด ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการค้าระหว่างประเทศที่ดีมากจังหวัดหนึ่ง เพราะสามารถติดต่อค้าขายกับกัมพูชาได้ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ด่านศุลกากรคลองใหญ่ได้เปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพื้นที่ตรงข้ามด้านกัมพูชา คือ บ้านจามเยี่ยม อ.มณฑลสีมา จ.เกาะกง เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าชายแดนที่เพิ่มมูลค่าขึ้นทุกปี ในปัจจุบันมีท่าเทียบเรือเอกชนถึง 4 ท่าด้วยกันในการจะขนส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ทางด่านยังมีการจัดอบรมให้มีการเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชาให้แก่เจ้าหน้าที่ อันจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานและบริหารจัดการชายแดนร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศอีกด้วย
- 4. ด่านศุลกากรมุกดาหาร
ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง อ.หว้านใหญ่ และอ.ดอนตาล ติดกับ สปป.ลาว เป็นด่านชายแดนที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งเป็นแขวงที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้นำหลักการบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน (CBM) มาเป็นเครื่องมือ โดยมีการจัดตั้งพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area : CCA) ที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริการตรวจปล่อยสินค้าแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (Single Stop Inspection : SSI) ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยและเจ้าหน้าที่พาสี สปป. ลาว การดำเนินการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และบริเวณพื้นที่ชายแดน จ.มุกดาหารในระดับภายในประเทศ เพื่อบูรณาการด้านต่างๆ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ส่วนทางด้านความมั่นคงได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยงานด้านความมั่นคง อาทิเช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.มุกดาหาร (กอ.รมน.จว.มห.), กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ จ.มุกดาหาร (กกล.รส.จว.มห.) เป็นต้น การดำเนินการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ของหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิเช่น ด่านพาสีขัว มิตรภาพ 2 แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว รวมทั้งการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย – ลาว ระหว่างจ.มุกดาหาร – แขวงสะหวันนะเขต โดยมี ดร.สุพัน แก้วมีไช เจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขตเป็นประธานร่วม
- 5. ด่านศุลกากรสะเดา
ตั้งอยู่ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นด่านที่มีปริมาณของสินค้านำเข้าและส่งออกผ่านเขตแดนทางบกสูงที่สุด และเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งสินค้าไปสู่ตลาดเอเชียภายใต้โครงการพัฒนาร่วมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย – มาเลเซีย – อินโดนีเซีย (IMT-GT) ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาและข้อจำกัดด้านการบริการพิธีการศุลกากร ทั้งด้านความแออัด คับแคบของสถานที่และพื้นที่การให้บริการ อีกทั้งด้านการจราจร จึงต้องมีการพัฒนาขยายพื้นที่ด่านเพื่อแก้ไขปัญหา โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ได้จัดสรรพื้นที่จำนวน 595 ไร่ งบประมาณในการดำเนินการจำนวน 2,388 ล้านบาท เกิดขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต เหตุเพราะว่าฝั่งชายแดนประเทศมาเลเซีย มีโครงการขยายพื้นที่ด้านคมนาคมขนส่ง เรียกว่าโครงการ KOTA PERDANA เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งใช้เส้นทางคมนาคมในการขนส่งเชื่อมต่อกับด่านศุลกากรสะเดา การก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ยังเป็นการรองรับการพัฒนาขนส่งสินค้าโดยระบบรางกับการพัฒนาร่วมโครงการท่อก๊าซไทย – มาเลเซีย นอกจากนี้ทางด่านฯยังมีการรองรับโครงการตรวจสินค้า ณ จุดเดียว การปรับปรุงระเบียบพิธีการศุลกากร และเอกสารในระบบพิธีการศุลกากรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันระหว่างไทยและมาเลเซียอีกด้วย
อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรยังคงดำเนินการบริหารจัดการชายแดนร่วม (CBM) กับประเทศเพื่อนบ้าน ตามด่านศุลกากรอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเท่านั้น ซึ่งเป็นการยกระดับการค้าชายแดนให้มีศักยภาพ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามไปด้วย
ผู้เรียบเรียง : ฐานิตดา ชัยวนนท์ นักวิชาการศุลกากรปฎิบัติการ กรมศุลกากร
Credit. กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, ด่านศุลกากรแม่สอด, ด่านศุลกากรอรัญประเทศ, ด่านศุลกากรคลองใหญ่, ด่านศุลกากรมุกดาหาร, ด่านศุลกากรสะเดา