Need to know 2
ต้องพึ่ง “คนกลาง”
สุวัฒน์ จรรยาพูน
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ช่วงนี้ได้ยินว่ามีการถามหา “คนกลาง” อยู่บ่อยๆ ก็เลยคิดว่าต้องเปิดเผยตัวเองเสียบ้างว่าเป็นคนที่สนับสนุน “คนกลาง” ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ จะว่าผมเลือกข้างก็ยอมครับ เพราะผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ ใหญ่มากๆ ด้วยนะครับ ที่สนับสนุนให้มี “คนกลาง” แน่นอนว่าคนกลางที่จะสนับสนุนย่อมมีกฎหมายรองรับ มีอำนาจเต็ม ไม่ต้องการกองกำลังติดอาวุธ ไม่เรียกร้องให้มีการ์ด ไม่ต้องตั้งกรวย ไม่พอใจก็ถอดถอนได้ เปลี่ยนใหม่ได้ ที่สำคัญมีให้เลือกหลากหลาย กล้าเปิดเผยตัว มีการใช้บริการกันมานานเป็นประเพณี และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
ต้องรีบเฉลยก่อนจะโดนนักล่าแม่มดไล่ล่า เพราะว่าผมไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองนะครับ ผมจะกล่าวถึง “คนกลาง” ทางธุรกิจ ซึ่งโซ่อุปทานจำเป็นต้องมี โดยจะทำหน้าที่ที่ธุรกิจไม่สามารถครอบคลุมถึง ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด ที่เรียกกันว่า “คนกลาง” ก็เพราะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ระหว่างผู้ผลิตและลูกค้า ผู้ผลิตจะเป็น “เถาปั๊ว” หรือเป็นไม้แรก ถ้าขายให้ผู้บริโภคโดยตรงก็ไม่จำเป็นต้องใช้ “คนกลาง” ซึ่งมีจำนวนไม่มาก (ไม่ใช่มวลมหาประชาชน) และที่สำคัญขนาดธุรกิจจะมีขนาดไม่ใหญ่ ตัวอย่างก็น่าจะเป็นคนขายก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง
หาก “เถาปั๊ว” หรือผู้ผลิตขายต่อให้ “ยี่ปั๊ว” หรือทอดที่สอง (“ยี่” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่า สอง) ถ้ามีทอดที่สาม สี่ หรือ ห้า ก็จะเรียก “ซาปั๊ว” “สี่ปั๊ว” “โหงวปั๊ว” ไปเรื่อยๆ จนถึงร้านค้าปลีก หรือร้านขายของชำ (โชวห่วย) ก่อนถึงมือผู้บริโภค ในกลุ่มนี้ก็จะเป็น “คนกลาง” ที่เรารู้จักและคุ้นเคยมานาน มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ตลาดขยายตัว ขยายฐานลูกค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ความต้องการสินค้าก็เพิ่มมากขึ้น ผู้ผลิตก็จำเป็นต้องขยายกำลังการผลิต หรือระบบก็จะจูงใจให้มีผู้ผลิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดที่ขยายตัว คนกลางนี้จะสั้น หรือยาวขึ้นอยู่กับขนาดของตลาดและกำลังความสามารถของกิจการ
ตัวอย่างเช่น ร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ร้านอร่อยแถวบ้านผมที่เยวราชก็จะทำเส้นบะหมี่เอง ย่างหมูแดงเอง เตรียมเครื่องต่างๆ เอง มีลูกน้องช่วยอยู่ 4-5 คน ทำไปขายไป เมื่อขายดีขึ้น ต้องการวัตถุดิบเพิ่มขึ้น จะไปเลือกหมู เลือกแป้ง เลือกวัตถุดิบต่างๆ เอง เหมือนเดิมก็จะเสียเวลา และขนกลับมาก็ไม่ไหวในครั้งเดียว ก็เริ่มที่จะใช้ลูกน้องไปจ่ายตลาด คนหนึ่งไปซื้อหมู อีกคนไปซื้อแป้ง ซึ่งก็ต้องสอนวิธีการเลือกซื้อ พาไปร้านที่ซื้อประจำ แนะนำตัวลูกน้องให้รู้จัก และก็ต้องไว้ใจลูกน้องว่าจะซื้อได้เหมือนที่เจ้าของซื้อ
ต่อมาเมื่อขายดีมากขึ้นลูกชายก็อยากขยายร้าน ก็ต้องการวัตถุดิบมากขึ้น การที่จะไปหาวัตถุดิบเองหรือใช้ลูกน้องก็จะยากและเสียเวลา ก็เริ่มประสานงานกับผู้ขายวัตถุดิบให้มาส่งสินค้าให้ที่ร้าน มีการนัดหมายเวลารับส่งสินค้ากัน บางครั้งอาจให้ร้านเตรียมวัตถุดิบมาเบื้องต้นให้เลย เช่น ให้แล่หมูมาขนาดที่ต้องการ หรือให้หมักหมูมาให้ด้วย เพื่อที่จะมาย่างได้เลย โดยที่เขียงหมู กับโรงแป้งบอกว่าไม่มีคนส่งให้จะให้มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือรถสามล้อส่งของให้เป็นประจำแทน คนกลางก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสนับสนุนธุรกิจแล้ว หลังจากขยายร้านก็ยังขายดีก็มีความคิดที่จะขยายสาขา ไปตามที่ต่างๆ โดยมารับบะหมี่ หมูแดง น้ำซุป และอื่นๆ ที่ร้านใหญ่ของพ่อ
เมื่อขยายสาขาไปเรื่อยๆ ก็ทำบะหมี่ และหมูแดงไม่ทัน ลูกชายคนโตก็ไปเปิดโรงงานผลิตบะหมี่ ลูกชายคนรองก็เปิดโรงงานทำหมูแดง ลูกสาวก็เปิดแฟรนไชส์ขายบะหมี่หมูแดง และลูกชายคนสุดท้องก็รับของจากโรงงานพี่ชายไปยังหน้าร้านต่างๆ ของพ่อและพี่สาว
หลังจากเป็นโรงงานผลิต ก็เกิดการทำงานเฉพาะทาง พ่อกับลูกสาวก็ขายอย่างเดียวไม่ต้องเตรียมของ มีเวลามากขึ้น ก็ขยายสาขาได้มากขึ้น หันไปบริหารงานด้านคุณภาพและการตลาด โรงงานก็ต้องผลิตทั้งวันมีกำลังผลิตเกินกว่าที่ครอบครัวต้องการ ก็มีการหาลูกค้าใหม่ การส่งสินค้าขยายตัวต้องใช้การขนส่งที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
เมื่อการบริหารจัดการก็มีลักษณะเฉพาะมากขึ้น บะหมี่ หมูแดง หน้าร้าน ขนส่ง ก็มีความแตกต่างกันมากขึ้น ปัญหาของบะหมี่ หมูแดงก็มีความเกี่ยวข้องน้อยลง พี่ชายคนโตเริ่มกล่าวกับน้องชายคนรองว่าแค่เรื่องบะหมี่ก็ปวดหัวแล้ว ส่วนเรื่องหมูแดงไม่รู้เทคนิคเฉพาะจริงๆ ปัญหาการขนส่งหน้าร้านก็ตัดสินใจช่วยเหลือได้น้อยลง พี่สาวก็เริ่มบอกกับโซ้ยตี๋ว่าเรื่องรถ เรื่องถนน เรื่องเส้นทาง ว่าจะเอารถไฟ หรือถนนลูกรัง ให้ไปถามคนอื่นดีกว่า ดังนั้นการจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็เริ่มมีบทบาท การบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ก็ลดบทบาทลง เกิดการแบ่งเป็นหน่วยธุรกิจย่อย จนบางครั้งจะเป็นการโยกย้ายภาระงานออกไปเปิดธุรกิจใหม่เข้ามาสนับสนุน
ตัวอย่างทางธุรกิจก็มีให้เห็นมากมาย เช่น บริษัทของครอบครัวเพื่อนผมทำพวกเครื่องเขียน ก็เริ่มแบ่งงานคลังสินค้าและการกระจายสินค้าแยกออกมาบริหาร ส่งผลให้ระยะเวลาส่งมอบลดลงจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 1 สัปดาห์ และกลายเป็น 3 วันในที่สุด เพราะเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน และเมื่อเพื่อนผมเข้ามาดูแลเทคโนโลยีจนเชี่ยวชาญและมีลูกน้องมือดีหลายคน ธุรกิจของครอบครัวก็เริ่มนิ่งด้านเทคโนโลยี จึงเปิดบริษัทใหม่ทำงานด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ มีภาระส่วนหนึ่งในการดูแลระบบของธุรกิจครอบครัว แต่ภาระส่วนมากกลายเป็นการวางระบบเทคโนโลยีให้กับกิจการต่างๆ
ซึ่งก็คงคล้ายๆ กับ เอสซีจี โลจิสติกส์ และซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ทของปูนซีเมนต์ไทย ที่ขยายกิจการออกไปทางด้านการขนส่ง และค้าปลีก หรือแม้กระทั่ง เอ็น เฮลท์ ของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการโรงพยาบาลทุกด้านเว้นแต่งานด้านรักษาพยาบาลของ โรงพยาบาลในเครือ และรับจ้างธุรกรรมต่างๆ ให้โรงพยาบาลอื่นด้วย เช่น การขนส่งพัสดุระหว่างโรงพยาบาล
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างของกิจการที่มีทรัพยากรมาก และมีความสามารถในการขยายตัวด้วยการเข้าไปทำหน้าที่แทน “คนกลาง” ด้วยเนื่องมาจากต้องการการสนับสนุนกันแบบไร้รอยต่อ และมีความมั่นใจว่าจะไม่แพร่งพรายความลับทางธุรกิจให้กับคู่แข่ง บางครั้งอาจจะได้ความลับหรือลดพลังของคู่แข่งแทน เช่นในกรณี การเข้าซื้อกิจการโรงงานแก้วของเครือไทยเบฟเวอเรจส่งผลให้น้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของไทยไม่มีขวดแก้วขายในตลาดทั้งๆ ที่เป็นตลาดหลักของไทย
แต่รูปแบบการขยายกิจการโดยไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรและความสามารถของธุรกิจก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กันด้วยการใช้บริการของ “คนกลาง” ระดับชาวบ้านก็มีพวกมอเตอร์ไซด์รับจ้าง รถรับจ้างทั่วไป ฝากส่งไปกับรถทัวร์/รถไฟ บริษัทขนส่ง ค้าส่ง ค้าปลีกทั่วไป ขยับขึ้นมาอีกน่าจะเป็น ไปรษณีย์ไทย คลังสินค้ารับจ้าง ถ้าในรูปของตัวแทนจำหน่ายก็เป็นตัวแทนในระดับพื้นที่ เช่น ตัวแทนภูมิภาค ตัวแทนประเทศ ตัวอย่างของบ้านเราก็น่าจะเป็น หาดทิพย์ ที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ส่วนไทยน้ำทิพย์ก็ดูแลภาคอื่นๆ ให้กับ “โคคาโคล่า”
อีกรูปแบบในการขยายกิจการก็คือ การร่วมมือกันของคู่ค้า เช่น ผู้ขายวัตถุดิบให้บริษัทรถยนต์ ต้องร่วมมือกันวางแผนการผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ และวางแผนการขนส่ง เพื่อให้สามารถขนวัตถุดิบจากหลายๆ แหล่ง เข้าไปส่งในโรงงานประกอบรถยนต์พร้อมๆ กันได้ เนื่องจากโรงงานประกอบรถยนต์ต้องการวัตถุดิบครั้งละน้อยๆ แต่วันหนึ่งต้องการหลายครั้ง ซึ่งผู้ขายปัจจัยการผลิตนี้จำเป็นต้องร่วมมือกันทำงานจึงจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ลดปริมาณการลงทุน และตอบสนองความต้องการของบริษัทประกอบรถยนต์ได้
“คนกลาง” จึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ และเมื่อธุรกิจต้องการให้เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการก็เพิ่มมากขึ้น ส่วนการที่กิจการจะเข้าไปกินรวบและดำเนินกิจการของ “คนกลาง” เอง เพื่อเป็นการเสริมให้กิจการสามารถดำเนินงานไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างไร้รอยต่อ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ และสมควรสนับสนุนอย่างยิ่ง หากทรัพยากร และความสามารถของกิจการมากพียงพอ เพราะต้องมีปัญหาด้านอื่นๆ ตามมามากมาย เช่น ด้านการตลาดของธุรกิจใหม่ ด้านการทำความเข้าใจกับพนักงานในองค์กร เพราะการที่เราจะเปลี่ยนจากการจ้างผู้อื่น เป็นการทำเอง กักตุนข้าวเอง หาลูกค้าเอง ขายข้าวเอง จ่ายหนี้เอง กู้เอง ภาระย่อมมากขึ้นแต่ผลลัพธ์ย่อมดีกว่าจ้างแน่นอนหากเราทำได้ … ครับ
************************************************************
sauce@bockwurst.sentrys” rel=”nofollow”>.…
thanks!…
trinitarian@throttled.succumbing” rel=”nofollow”>.…
thanks for information….
illustrator@veterans.barbell” rel=”nofollow”>.…
ñïñ….
doorman@shutters.boulevard” rel=”nofollow”>.…
thanks for information!!…
mckee@vrilium.accord” rel=”nofollow”>.…
tnx for info!…
gilborn@fingers.wlib” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!…
effects@attentively.settlers” rel=”nofollow”>.…
ñïñ çà èíôó!…
Carri Simbeck…
I found a great……
Buy Proxies…
I found a great……
Proxy Price…
I found a great……
Buy Private Proxies For Sneakers…
I found a great……