บทเรียนจากธรรมชาติ

A Lesson from Nature

บทเรียนจากธรรมชาติ

สุวัฒน์ จรรยาพูน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ที่ผ่านมา ภูเขาไฟระเบิดที่ยุโรปจนสายการบินต่างๆ ต้องหยุดบินไปหลายวัน จำได้ว่าเพื่อนผมไปเที่ยวยุโรปช่วงนั้นพอดี จึงกลับมาไม่ได้ตามกำหนด ต้องติดอยู่ต่างประเทศเสียหลายวัน เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ก็เยอะ แล้วต้องไหว้วานให้เพื่อนๆ ช่วยเข้าสอนแทน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่น่าเชื่อว่าภูเขาไฟระเบิดที่ยุโรป มันก็สะเทือนถึงผมที่นอนเล่นอยู่ในเมืองไทยได้

ใกล้เข้ามาอีกนิดหนึ่งจำกันได้ว่าแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นจนเกิดสึนามิครั้งใหญ่คราหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก ทำให้พี่สาวผมที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นต้องนอนเล่นอยู่ที่บ้านเสียหลายวัน ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีวัตถุดิบให้ผลิต ไม่น่าเชื่ออีกแล้วว่าเรื่องมันไกลถึงญี่ปุ่น แต่ก็กระทบถึงคนไทยอย่างเราด้วย ตัวอย่างที่ผมยกมาอาจฟังดูน่าสบายดีในมุมมองของลูกจ้าง แต่ลองคิดถึงในฐานะนายจ้างบ้างคงปวดหัวน่าดูเชียวครับ

สองกรณีข้างต้น ผมคิดว่าเราก็พอเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโซ่อุปทานได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ชัดเจนมากนัก เพราะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนส่วนใหญ่ จวบจนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ของบ้านเราทำให้มองอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น เริ่มพบว่าหลายสิ่งมีความสัมพันธ์กันโยงใยเป็นโครงข่ายไปทั่วโลก เริ่มจากถนนหนทางค่อยๆ ถูกกลืนหายไป โรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถทำงานได้ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็เริ่มทะยอยปิดตามการคืบคลานของน้ำ บ้านพักอาศัยก็ทำท่าว่าจะอยู่ไม่ได้ ต้องมองหาแหล่งที่อยู่ใหม่ อาหารการกินก็หายาก สินค้าต่างๆ ก็เริ่มหมดไปจากชั้นวางสินค้า  ชาวบ้านเริ่มกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภคกันอย่างบ้าคลั่ง จนหลังน้ำลดแล้วยังกินไม่หมด และดิ้นรนช่วยตัวเองในการคิดค้นหาวิธีป้องกันน้ำไม่ให้เข้าบ้านในยามที่กระสอบทรายหายากและแพงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

การกักตุนสินค้า หากดูในเว็ปไซด์ก็จะมีคำแนะนำให้ซื้อเก็บแต่พอใช้เท่าที่จำเป็น แต่ก็จะมาให้เห็นหลังสินค้าเกลี้ยงชั้นวางสินค้าไปแล้ว ทั้งๆ ที่ข้อมูลนี้ไม่ใช่ของใหม่ มีการแปลมาจากสมัยที่สึนามิเข้าประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าการเชื่อมโยงสถานการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือวิกฤติต่างๆ ของบ้านเราย่ำแย่เต็มทีเห็นควรจะต้องมีการสังคยานาครั้งใหญ่กันบ้างแล้ว

ความตกใจแล้วตุนของ กับการดิ้นรนหาแนวทางป้องกันด้วยตัวเองนี้บ้านผมก็ไม่ได้ถูกยกเว้น แม้ว่าบ้านแม่ผมอยู่กรุงเทพฯ ชั้นใน น้ำไม่ได้เฉียดไปเลยก็ว่าได้ ก็ยังมีกำแพงกั้นน้ำ (หมดไปหลายสตางค์อยู่) และกลายเป็นศูนย์อพยพของบรรดาลูกๆ กับญาติๆ แต่พอหลังจากมีข่าวว่าคลองประปาแตก บ้านแม่ผมก็มีน้ำเข้าบ้านถึงชั้นสอง แต่เป็นน้ำดื่มนะครับ ไม่ทราบว่าพี่สาวผมไปหามาจากไหน ตั้งน้ำบรรจุขวดกองสูงทั้งชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ถามดูก็รู้ว่าไปกรอกน้ำกรองมาจากโรงงาน เพราะเกรงว่าน้ำประปาจะไม่สะอาด

วิกฤติน้ำครั้งนี้หากติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดก็จะพบโครงข่ายของโซ่อุปทานในธุรกิจหลายๆ อย่าง ร้านบะหมี่ญี่ปุ่นที่มีหมายเลข 8 เป็นสัญลักษณ์ และร้านซาลาเปาแห่งหนึ่ง ก็ต้องปิดหน้าร้านทุกแห่งชั่วคราวเพราะโรงงานผลิตถูกน้ำท่วม น้ำอัดลมสองค่ายยักษ์ใหญ่ ก็ไม่มีสินค้าส่งให้ร้านค้า น้ำดื่มหลายยี่ห้อก็เกลี้ยงชั้นวางสินค้าและไม่มีมาเติมอีกจนขาดตลาด โรงงานที่นิคมอมตะนครแถวชลบุรีที่แห้งสนิท ไม่มีน้ำมาเยี่ยมเยียน ก็จำต้องชลอการผลิต สลับกับหยุดสายการผลิตไปบ้างด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีอะไหล่ เพราะโรงงานของซัพพลายเออร์จมน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำท่วมกินเวลานานถึงสองเดือน หลายโรงงานที่ไม่ใช่เส้นทางผ่านของน้ำ ก็ยังต้องปิดตัวเองลงไปเพราะไม่มีวัตถุดิบให้ผลิตจริงๆ

ตัวอย่างเช่น ค่ายประกอบรถยนต์อย่างโตโยต้า ฮอนด้า ทั่วโลก ก็ชลอการผลิตรถบางรุ่น ลงเพราะอะไหล่มาจากประเทศไทย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกก็หยุดชงักเพราะบ้านเราเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโลก การเชื่อมโยงของธุรกิจเหล่านี้ถูกทำให้เข้าใจได้มากขึ้น ภาพของความซับซ้อนของเครือข่ายธุรกิจก็ปรากฎชัดเจนขึ้น จริงๆ แล้วเมื่อวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมาเราก็ได้เรียนรู้ถึงการเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจทั้งระบบ ได้เห็นว่าธุรกิจต่างๆ นั้นเริ่มปิดตัวลงจากจุดเล็กๆ ก็ขยายออกเป็นวงกว้าง และนักธุรกิจต่างก็มีกลยุทธ์ที่จะรับมือหากจะเกิดวิฤติทางการเงินอีก

คราวนี้ก็เช่นกัน ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ทำให้เราได้ทราบว่ากลยุทธ์ฉุกเฉินที่เราใช้ป้องกันตนเองนั้นให้ผลลัพธ์อย่างไร จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างไรในอนาคต หลายธุรกิจได้เรียนรู้ว่าการรวมศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือกระจายสินค้าไว้ที่แห่งเดียวนั้นมีความเสียงอย่างไร ก็เริ่มที่จะมองหาทำเลที่ตั้งสำรองไว้ อย่างที่เราได้ยินข่าวว่ามีหลายอุตสาหกรรมคิดจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทย ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็มองหาซัพพลายเออร์รายใหม่เพิ่มขึ้น แม้แต่แนวคิดการย้ายเมืองหลวงอย่างที่เป็นข่าว

กลยุทธ์การบำรุงรักษาเชิงป้องกันก็เห็นได้ชัดว่ามีความจำเป็นเพียงใด โรงงานหลายแห่งที่ปรับปรุงและป้องกันได้ทราบว่าจะต้องให้ความสนใจในรายละเอียดส่วนใดบ้าง ทั้งโรงงานไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านหลัง รวมไปถึงระบบระบายน้ำ ส่วนในภาครัฐก็ต้องให้ความสนใจบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์โดยรวมอย่างเคร่งครัด เครื่องสูบน้ำตามประตูระบายน้ำหลายแห่งไม่เคยใช้ และเมื่อถึงคราวต้องใช้ก็ใช้ไม่ได้ แม่น้ำ คูคลอง หนอง บึง ต่างๆ ไม่เคยได้รับความสำคัญให้ขุดลอก ปล่อยให้ตื้นเขิน และชาวบ้านบุกรุกเข้าไปทำที่อาศัยจนกลายเป็นชุมชน การแก้ตัวว่าไม่มีงบประมาณก็ไม่น่าจะฟังขึ้นอีกต่อไป

บทเรียนนี้ทำให้เราได้เห็นถึงเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเราแต่ก็ยังมาเกี่ยวจนมีผลกระทบร้ายแรงกับเราจนได้ ช่วยให้เราได้กลับมาคิดทบทวนถึงกลยุทธ์ต่างๆ ในหลายหลายมุมมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น สิ่งเล่านี้เราเรียนรู้ได้จาก “ตาเนื้อ” เพราะมองเห็นด้วยตาก็นำกลับมาคิดได้ แต่บทเรียนที่ธรรมชาติให้มานี้เราต้องมองให้ครบถ้วนจาก “ตาใน” หรือมองด้วย “ใจ” จึงจะเข้าถึงโซ่อุปทานอย่างแท้จริง “ตาใน” ที่ว่านี้ก็เพียงแค่ให้คิดถึงในมุมมองของลูกค้าเราด้วยว่าจะส่งผลกระทบกับเขาอย่างไร ในกลยุทธ์ที่เราทำอยู่ เรียกได้ว่าคิดแบบ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา”

องค์กรเอกชนผมคิดว่าน่าจะมีประสบการณ์ในการ “มองด้วยมุมมองของลูกค้า” บ้างแล้ว แต่ที่ปรากฎตามหน้าข่าวผมเห็นว่าภาครัฐควรต้องนำมาใช้ให้มากขึ้น อย่างเช่นกรณี “บิ๊กแบ๊ก” ที่เห็นข่าวกันว่ามีการวางเพื่อชลอน้ำ แต่ไม่เห็นถึงภาพของการประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการดำเนินการเป็นขั้นตอนอย่างไร พื้นที่หน้าและหลังบิ๊กแบ๊กจะได้รับผลกระทบอย่างไรเมื่อใดจึงจะเอาออก ความไม่เข้าใจระหว่างผู้ทำงานกับผู้ประสบภัยจึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

หรืออย่างกรณี ใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปา ที่บอกว่าจะขอใช้ค่าเฉลี่ย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจดมิเตอร์น้ำได้ และเมื่อสามารถจดได้ก็จะนำมาคำนวณ หากเก็บเกินก็จะหักออกคืนให้ในรอบบิลถัดไป และหากเก็บขาดก็จะบวกเพิ่มในรอบบิลถัดไปเช่นกัน กลยุทธ์นี้ฟังดูก็เหมือนว่าเหมาะสม แต่เหมาะสมจากการมองจากมุมของการประปาเอง ไม่ได้มองจากผู้ใช้น้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้น้ำที่ประสบอุทกภัย

จริงๆ แล้วการใช้ “ตาใน” ไม่ได้ยากหรือสร้างความลำบากอะไรเพิ่มขึ้นเลย เพียงแค่คิดว่าถ้าเราได้ใบแจ้งหนี้ค่าประปาแบบนี้ เราจะมีความรู้สึกอย่างไร แต่ก็น่าเห็นใจนะครับเพราะพนักงานการประปาเขาใช้น้ำฟรีเป็นสวัสดิการที่องค์กรให้ เหมือนกับพนักงานการไฟฟ้าก็ใช้ไฟฟรี พนักงาน ขสมก. ก็ขึ้นรถเมล์ฟรี (แต่ผมอยู่มหาวิทยาลัยไม่ได้เรียนฟรีนะ) ความรู้สึกถึงการต้องจ่ายค่าน้ำเท่ากับเดือนที่ผ่านมาในเดือนที่ไม่เคยเปิดก๊อกเลยเพราะปิดบ้านแล้วไปขอลี้ภัย 1 เดือนเต็ม จึงไม่สามารถเข้าใจได้ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการได้รับใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาที่ไม่เป็นธรรม

โซ่อุปทานที่ธรรมชาติให้บทเรียนมาในครั้งนี้ ช่วยให้เราได้เห็นจุดอ่อน หากธรุกิจไม่ละเลย นำมาใช้ในการปรับวิธีเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ การงานต่างๆ ก็จะดูง่ายขึ้น ด้วยว่าเราได้คิดวิธีการทำงานอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอนแล้ว ด้วยการใช้ “ตาเนื้อ และตาใน” ความโปร่งใสชัดเจนก็จะเกิดขึ้น การได้รับความเข้าใจและสนับสนุนจากทุกฝ่ายก็จะตามมาเช่นกัน

You can leave a response, or trackback from your own site.

13 Responses to “บทเรียนจากธรรมชาติ”

  1. Robert says:

    kahns@justices.condition” rel=”nofollow”>.…

    thanks for information….

  2. Wade says:

    often@upsetting.acoustic” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðåí!…

  3. ryan says:

    anew@uphold.outskirts” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðñòâóþ!…

  4. tyrone says:

    adventurous@chive.savoy” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ….

  5. jonathan says:

    keno@cubic.mailbox” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ!…

  6. Tony says:

    marvelously@cambridge.displays” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ çà èíôó….

  7. Brandon says:

    pullmans@information.mcphersons” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðåí….

  8. darrell says:

    delphi@guide.eppler” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ….

  9. บทเรียนจากธรรมชาติ | Especially of Logistics Supply Chains and Trading Magazine Freight Max says:

    Buy Usa Proxies…

    I found a great……

  10. บทเรียนจากธรรมชาติ | Especially of Logistics Supply Chains and Trading Magazine Freight Max says:

    Private Proxies Free…

    I found a great……

  11. บทเรียนจากธรรมชาติ | Especially of Logistics Supply Chains and Trading Magazine Freight Max says:

    How To Buy Proxies For Fortnite…

    I found a great……

  12. บทเรียนจากธรรมชาติ | Especially of Logistics Supply Chains and Trading Magazine Freight Max says:

    Fast Proxies…

    I found a great……

Leave a Reply